4 Kitchen layout to utilize your space effectively

2021/04/20 17:17:59

ห้องครัวเป็นหัวใจหลักของบ้าน เพราะไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับคนรักการทำอาหาร แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางของการรวมตัวสมาชิกในบ้านอีกด้วย ดังนั้นรูปแบบห้องครัว ชุดครัว ก็ต้องออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และการใช้งานของแต่ละครอบครัว วันนี้ เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม (Excellenceform) เลยนำรูปแบบชุดครัวต่างๆมาให้ลองศึกษากัน

1. รูปแบบชุดครัว I (I-Shaped Kitchen)

แบบครัว I-Shape สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า One Wall Kitchen ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแนวตรงยาว ตั้งอยู่ในระนาบเดียวกันทั้งหมด โดยใช้พื้นที่ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งอย่างเต็มที่ เพื่อให้อีกด้านมีพื้นที่ว่างสำหรับการเดิน โดยเคาน์เตอร์มาตรฐานมีความลึก 60 ซม. เหมาะกับครอบครัวที่ทำอาหารทานเองบ้างเพียงเล็กน้อย หรือสำหรับครัวที่มีพื้นที่จำกัด และมีรูปร่างห้องทรงยาว เห็นได้บ่อยสำหรับคอนโด หรือทาวน์โฮม ซึ่งนอกจากจะใช้พื้นที่น้อยแล้ว ยังทำให้ห้องครัวดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ ภาพรวมดูปลอดโปร่งสบายตา

ครัวรูปแบบนี้จะถูกเรียงจากขวาไปซ้ายของเคาน์เตอร์ เริ่มจากตู้เย็นและซิงค์ล้างจาน เพื่อจะได้หยิบวัตถุดิบในการทำอาหารออกมาล้างได้สะดวก ถัดมาเป็นส่วนที่พักจานพร้อมกับพื้นที่เตรียมของ อาจเป็นตำแหน่งที่ใช้วางเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และตามมาด้วยเตา หากต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บของก็สามารถทำตู้ลอยติดผนังเพิ่มได้

2. รูปแบบชุดครัว L (L-Shaped Kitchen)

แบบครัว L-Shape ถือว่าเป็นลักษณะห้องครัวยอดนิยมสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ เพราะมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน ใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่โล่ง ส่วนมากจะมีฝั่งหนึ่งยาวกว่าอีกฝั่ง ซึ่งควรให้จุดที่วางเตาหรือส่วนปรุงอาหารอยู่ในจุดที่สามารถระบายกลิ่นควันออกภายนอกบ้านได้ง่ายโดยมักจะอยู่ฝั่งที่สั้นกว่า ส่วนฝั่งยาวจะเป็นจุดซิงค์ล้างจานและเตรียมอาหารจะอยู่ฝั่งเดียวกัน 

ขนาดห้องควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 2.0 x 2.5 เมตร ลักษณะการจัดวางอุปกรณ์สะดวกสบาย ยืดหยุ่นกับการใช้งานอุปกรณ์ครัวอย่างทั่วถึง เนื่องจากมีพื้นที่มากขึ้นและระยะเคลื่อนที่ขณะใช้งานน้อยลง

3. รูปแบบชุดครัว U (U-Shaped Kitchen)

แบบครัว U-Shape จะเป็นชุดครัวที่ต้องมีพื้นที่การใช้งานมากที่สุดเพราะต้องโค้งเข้ามุมหากันโดยใช้พื้นที่ผนังทั้ง 3 ด้าน จึงเหมาะกับบ้านที่มีขนาดใหญ่พอสมควร โดยมีการวางพื้นที่จัดเก็บ ล้าง ปรุง อยู่แยกคนละฝั่งกันแล้วแต่ดีไซน์ของเรา แต่แน่นอนว่าตำแหน่งวางเตาจะอยู่แยกออกมาจากเพื่อน แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายอาจวางอยู่ในตำแหน่งเดียวกันได้ เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ ส่วนที่เตรียมอาหารกับซิงค์ล้างจานจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

ครัวลักษณะนี้จึงมีความยืดหยุ่นมากที่สุดเพราะยังสามารถขยายพื้นที่ของเคาน์เตอร์ และชั้นเก็บของต่างๆได้ ขนาดพื้นที่บ้านควรมีประมาณ 3.00 x 3.00 เมตร ในส่วนของเพดานควรสูงประมาณ 2.60-2.70 เมตร เพื่อไม่ให้ห้องดูแคบและอึดอัดเกินไป อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ ไม่ควรให้แต่ละจุดอยู่ห่างกันเกินไป เนื่องจากจะทำให้หยิบจับลำบาก

4. รูปแบบชุดครัวแบบเกาะกลาง (Island Kitchen)

ที่สุดของห้องครัวต้องยกให้ครัวแบบเกาะกลาง โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถทำได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นส่วนล้าง เตรียม ปรุง เตรียมอาหาร หรือแปลงเป็นที่นั่งรับประทานอาหารในมื้อเร่งด่วน โดยจะสามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับครัวตัว L หรือ ครัวตัว U หรือแบบอื่นๆได้ ซึ่งเกาะกลาง หรือ Island นั้นควรมีความสูงประมาณ 90 ซม. รวมถึงมีระยะห่างเคาน์เตอร์อย่างน้อย 120 ซม. เพราะฉะนั้นต้องมีพื้นที่ 12 ตารางเมตรขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ อย่างบ้านเดี่ยวขึ้นไป รวมถึงครอบครัวที่รักการทำอาหาร เพราะอยู่ทำครัวหรือในบริเวณเดียวกันได้ 4 คนขึ้นไปได้อย่างสบายๆ ครัวลักษณะนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ให้บรรยากาศอบอุ่นสุดๆ อีกทั้งยังเป็นแบบครัวที่กำลังได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน

ห้องครัวทุกรูปแบบมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป แค่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอย และการใช้งานของแต่ละบ้าน ลองเก็บไว้ไปเป็นไอเดียแต่งห้องครัวได้เลย และหากใครกำลังมองหาที่ที่รับออกแบบชุดครัวสำเร็จรูป (Knock Down Kitchen) หรือชุดครัวบิ้วอิน (Built In Kitchen) เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม (Excellenceform) สามารถออกแบบชุดครัว พร้อมอุปกรณ์ต่างๆที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำครัวที่หลากหลาย โดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย ความแข็งแรงทนทาน ประโยชน์ใช้สอย และความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง ลองติดต่อมาปรึกษาเราได้ที่เบอร์ 02-370-2635